คุณค่าในตัวเอง (1) SELF-WORTH

 


    มาถึงบทนี้เชื่อว่าผู้อ่านคงพอสังเกตและจับประเด็นสำคัญ

ได้ว่า ความสำเร็จของคนๆ หนึ่งมีความเชื่อมโยงกับ “ความคิด”

อย่างแยกจากกันไม่ได้ซึ่งไม่ว่าจะเป็นนักจิตวิทยานักปรัชญา

หรือผู้ที่ประสบความสำเร็จทั้งในอดีตและปัจจุบัน ล้วนเข้าใจ

ในกฎเกณฑ์ข้อนี้และสรุปมาเป็นหลักสูตรของความสำเร็จว่า

“ความคิดเป็นตัวแปรที่สำคัญที่สุดของความสำเร็จ”

แต่ความคิดจะสำเร็จได้ต้องอาศัยการลงแรงหรือลงมือกระทำด้วย

ไม่ใช่เพียงแค่การคิดหรือวาดภาพในใจแล้วจะเปลี่ยนทุกอย่างได้


     ความคิดอย่างแรกที่ควรต้องฝึก คือ ความคิดที่มีต่อตัวเอง

หรือพูดกันง่ายๆว่า “ความคิดที่มองเห็นคุณค่าในตัวเอง”


     ยาคิม แก็ทเว็ท (Nyakim Gatwech) เป็นเด็กสาวชาว

ซูดานอายุ 14 ปีครอบครัวเธอย้ายหนีสงครามกลางเมืองจาก

ซูดานประเทศบ้านเกิดมาที่สหรัฐอเมริกาเพื่อหวังจะมีชีวิต

ความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น แต่พอเข้าโรงเรียนวันแรกเธอก็โดนเพื่อนๆ

ล้อและกลั่นแกล้งตลอดถึงสีผิวที่ดำสนิท จนแทบจะมองไม่

เห็นนอกจากลูกตาเธอ การโดนเหยียดสีผิวโดยฝรั่งผิวขาวว่า

แย่แล้ว แต่ที่แย่กว่าคือการโดนเหยียดผิวจากคนผิวสีเหมือนกัน

เพียงเพราะเธอมีผิวที่เข้มกว่าคนอื่นเท่านั้นเอง (ซึ่งผิวเธอสีดำเข้ม

กว่าชาวบ้านทั้งหมดจริงๆ)


วันหนึ่งครูถามยาคิม (Nyakim) ว่า “โตขึ้นอยากเป็นอะไร”


     ยาคิม (Nyakim) ตอบด้วยความมั่นใจว่า “หนูอยากเป็น

นางแบบค่ะ” ซึ่งเป็นคำตอบที่ทำให้โดนล้อมากขึ้นอย่างบ้าคลั่ง

ทั้งว่าเธอใฝ่สูงเกินตัว ไม่รู้จักหัดเจียมตัวพิจารณาตัวเองซะบ้าง!

เธอนอนร้องไห้ฝันร้ายแทบทุกคืน จนมีความคิดอยากเก็บเงินไป

ฟอกสีผิวของตัวเองให้รู้แล้วรู้รอดไป เธอได้ไปปรึกษาพี่สาวเรื่อง

ฟอกสีผิว แต่พี่สาวเธอกลับบอกว่า


“เธอไม่ต้องฟอกสีผิวหรอก เธอฟอกแค่ความคิด

และจิตใจของเธอก็พอ” คำพูดนี้ได้เปลี่ยนชีวิตเธอไปตลอดกาล


     หลังจากวันนั้นเป็นต้นมาไม่ว่าเพื่อนจะแกล้งหรือล้อเลียน

ยาคิม (Nyakim) อย่างไรก็ตาม เธอก็ภูมิใจรับคำล้อเลียนและ

ตอบโต้ด้วยเมตตาเสมอจนสุดท้ายหลายคนเลิกล้อไปเอง เพราะ

นิสัยของพวกชอบล้อ เมื่อล้อแล้วอีกฝ่ายไม่มีอาการหรือโต้ตอบ

อะไร คนล้อก็จะเบื่อและเลิกล้อไปเองในที่สุด


     ยาคิม (Nyakim) มีเป้าหมายจะเป็นนางแบบให้ได้คนที่

อยู่วงการนางแบบจะรู้ดีว่าการเป็นนางแบบในประเทศใหญ่อย่าง

อเมริกา เป็นเรื่องที่ยากมากๆ และเป็นเรื่องเหลือเชื่อที่ ผิวสีดำ

ของเธอที่มืดสนิทกว่าใคร กลับไม่เป็นปัญหาในการเป็นนางแบบ

มิหนำซ้ำยังกลายเป็นจุดเด่น ที่ช่างภาพต่างชมว่า “เธอช่างมีผิวสี

ที่มหัศจรรย์มาก ผิวเข้มที่ดำสนิทเรียบ

เนียนสม่ำเสมอ ทำให้เราได้ภาพที่สุด

แสนจะวิเศษ”


ปัจจุบันยาคิม (Nyakim) อายุ

27 ปีและได้สมญานามว่า “Queen

of the dark” หรือราชินีแห่งความมืด

เป็นนางแบบชื่อดัง ที่มีรายได้มากกว่า

20 ล้านบาทต่อปี


     ยาคิม (Nyakim) บอกว่าที่เธอมีทุกวันนี้ได้เพราะคำพูด

เปลี่ยนชีวิตของพี่สาวที่พูดกับเธอนั่นเอง ทำให้จากที่เธอเกลียด

และดูถูกตัวเองมาก กลายเป็นคนที่เริ่มชอบตัวเอง และชอบมาก

ขึ้นทุกวันๆ จนทุกวันนี้เธอหลงรักตัวเองแบบสุดหัวใจและภูมิใจ

ในทุกสิ่งที่เป็นตัวเธอ


     การที่ยาคิม (Nyakim) เห็นคุณค่าของตัวเองอย่างแท้จริง

ทำให้เธอใช้ชีวิตอย่างมีเป้าหมาย และไม่เสียเวลาไปกับเสียง

วิพากษ์วิจารณ์ของคนรอบข้าง และมุ่งหน้าก้าวไปให้ถึงเป้าหมาย

ที่ตั้งไว้จนสำเร็จ


จากเรื่องราวของยาคิม (Nyakim) ทำให้เราเห็นว่า

การมองเห็นคุณค่าในตัวเองเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะ

คนเราจะไม่มีทางประสบความสำเร็จได้เลย ถ้าไม่รู้คุณค่า

ในตัวเอง คำถามคือเราวัดคุณค่าในตัวเองได้จากตรงไหน ?


     การวัดคุณค่าของตัวเอง วัดได้จาก “เรามีความ

เห็นต่อตัวเองอย่างไร ?” ซึ่งต้องไม่ใช่จากความเห็นของคน

รอบข้างบอกเรา แล้วมาตัดสินว่าเป็นเรา ยกตัวอย่างตัวผู้เขียนเอง

ที่แม้จะมีต้นทุนพื้นฐานน้อยกว่าคนอื่น แต่ก็ไม่เคยตีอกชก

ตัวเองว่าเราแย่หรือรู้สึกด้อยค่า หรือไปเปรียบเทียบตัวเองกับคน

อื่นให้บั่นทอนกำลังใจตัวเอง ในทางกลับกันผู้เขียนมองตัวเองว่า

“เราดีขึ้นกว่าเดิมทุกวัน” และรู้สึกขอบคุณคนรอบข้าง

ที่สำคัญคือขอบคุณตัวเอง ที่ไม่หยุดที่จะเรียนรู้พัฒนาตนเอง

ตลอดเวลา สิ่งไหนที่ไม่รู้ เราก็สามารถเรียนรู้และฝึกฝนได้

เมื่อฝึกฝนมากเข้า ก็จะเกิดเป็นความชำนาญในที่สุด ดังนั้น

การมีความเคารพในตัวเองจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก


ดร.นาธาเนียล แบรนเดน (Nathaniel Branden) ผู้บุกเบิก

จิตวิทยาแห่งความนับถือตัวเอง Self Esteem ได้บอกเราไว้ว่า


“Of all the judgments we pass in life, none is more 

important than the judgment we pass on ourselves. 

การตัดสินทั้งหมดที่ผ่านมาในชีวิตเรา ไม่มีอะไรสำคัญไป

กว่า การตัดสินที่เรามอบให้กับตัวเอง” -- Nathaniel Branden


     คำพูดของเราเอง เปรียบเสมือนคำพิพากษา คำพูดของ

คนอื่นเป็นเพียงบริบทภายนอกเท่านั้น จะไม่มีผลกระทบกับตัว

เราเลย ถ้าเรารู้จักตนเองและมีความเคารพในตนเอง สิ่งที่มีผล

กับตัวเรามากที่สุด คือ คำพูดที่เราบอกกับตัวเองทุกวันๆ

เพราะความคิดส่งผลต่อคำพูด คำพูดส่งผลต่อการกระทำ 

การกระทำเป็นตัวชี้บอกลักษณะของคนๆ นั้น คนเราจะมีความสุข

หรือประสบความสำเร็จหรือไม่อยู่ที่ความคิดที่มีต่อตัวเองนั่นเอง


คนที่มีความมั่นใจในตัวเองจะมองเห็นคุณค่า และมีความ

เคารพตัวเอง (Self Esteem) ซึ่งในเรื่องของความเคารพตัวเองนั้น

แยกย่อยออกได้เป็น 3 เรื่อง คือ


1. การรู้คุณค่าของตัวเอง (Self Respect) คือรู้และ

ตระหนักว่าเราก็มีสิทธิ์มีความสามารถ ไม่ได้ด้อยค่ากว่าผู้อื่น ถ้า

คนอื่นประสบความสำเร็จได้คนอย่างเราก็ประสบความสำเร็จได้

เช่นกัน คนที่เห็นคุณค่าในตัวเอง จะรักตัวเอง และดูแลตัวเองให้

แข็งแรงทั้งกายและใจ


2. การรู้ในความเก่งของตนเอง (Self Competency)

คือ การมีความเชื่อมั่นในความสามารถหรือความเก่งของตนเอง

ความเก่งในที่นี้ไม่ได้หมายถึงแค่ความเก่งหรือความชำนาญทาง

ทักษะ แต่รวมไปถึงการรู้ว่าตนเองสามารถแก้ไขปัญหาได้ไม่ว่า

ปัญหานั้นจะใหญ่หรือเล็กก็ตาม ก็จะสามารถรับมือได้


เมื่อพูดถึงความเก่งเรื่องบางเรื่องเราไม่ได้เก่งมาแต่เกิด

คนที่มี Self Competency สูงๆจะมีความมั่นใจว่า ถ้าตั้งใจฝึกฝน

ก็จะสามารถทำได้แน่นอน เช่น ถ้าเราอยากเป็นนักพูด แม้ในตอน

แรกจะยังพูดไม่เก่งอาจจะประหม่ามีท่าทางเก้ๆ กังๆเวลาต้องพูด

ต่อหน้าสาธารณชน แต่เมื่อเราโฟกัสและตั้งใจฝึกฝนจนชำนาญ

ก็จะสามารถเป็นนักพูดที่เก่งขึ้นได้มีคำกล่าวว่า ถ้าเราตั้งใจฝึก

เรื่องใดเรื่องหนึ่งเป็นเวลามากกว่า 10,000 ชม. ขึ้นไป เราจะกลาย

เป็นอัจริยะหรือเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านนั้นในที่สุด เมื่อมีความ

ชำนาญความเชื่อมั่นก็จะตามมาเอง ดังนั้น ทักษะหรือความเก่ง

เป็นสิ่งที่ฝึกได้ขอให้เราหาต้นแบบหรือครูที่ดีให้เจอ แล้วตั้งใจ

ฝึกฝนตามครูอย่าย่อท้อ


3. มุมมองที่มีต่อตัวเอง (Self Image) ยกตัวอย่าง

ง่ายๆ เช่น คนที่พยายามลดความอ้วนมาตลอดชีวิตแต่ไม่ประสบ

ความสำเร็จ หรือแม้จะเคยพยายามลดความอ้วนและสามารถลด

น้ำหนักลงไปได้หลายกิโล แต่สุดท้ายก็จะกลับมาอ้วนเหมือนเดิม

ที่เป็นเช่นนี้เพราะ เขาบอกกับตัวเองตลอดว่า “ฉันเป็นคนอ้วน”

แม้จะสามารถลดน้ำหนักได้แล้วก็จริง แต่เพราะจิตใต้สำนึกยังคง

บอกกับตัวเองเสมอว่า “ฉันเป็นคนอ้วน” ดังนั้น เขาจึงลดความ

อ้วนไม่สำเร็จ แต่ถ้าเมื่อใดเขาบอกกับตัวเองว่า“ฉันเป็นคนผอม”

จิตใต้สำนึกจะสั่งร่างกายให้คิด พูด ทำ แบบคนผอม เมื่อนั้นเขาก็

จะผอมถาวร เพราะจิตใต้สำนึกของคนเราจะปรับตัวเองให้ไปยัง

คำพูดที่เขาได้บอกกับตัวเองไว้เสมอ


โดยสรุป คนที่จะประสบความสำเร็จ และมีความสุขได้ 

จะต้องมองเห็นคุณค่าและเคารพตัวเอง (Self Esteem)

คนที่มี Self Esteem สูง จะเป็นคนที่มีความรับผิดชอบสูง และมี

ความเชื่อมั่นในตัวเองสูงเช่นกัน


>> โปรดกดติดตาม เพื่อรับเรื่องราวดี ๆ ในครั้งต่อไป..


#หลวงพี่นะโม

#หนังสือจูนความคิดพิชิตความสำเร็จ 

#จูนความคิด #พิชิตความสำเร็จ #ความสำเร็จ #ความคิด #จูนความคิดพิชิตความสำเร็จ #tunningmind #successtory

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม